เมนูเครื่องเคียงที่ใคร ๆ ก็ต่างชอบ ทั้ง หนุ่ม ๆ สาว ๆ เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี แถมยังได้โปรตีน และวิตามินจากเนื้อปลาทูน่า ผัก ผลไม้ นานาชนิด ที่ใส่ลงไปอีก ที่ดีกว่านั้นคือสามารถทำเองได้ง่าย ๆ อีกด้วย
พลังงานในทูน่าคอร์นสลัด
เมนูนี้ได้รับความนิยมมาจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยอดนิยม เพราะว่าเป็นเครื่องเคียงที่สามารถลดความเลี่ยนของอาหารได้ดีทีเดียว แถมวัตถุดิบที่ใช้ก็ดูเหมือนว่าจะดีต่อสุขภาพ ถ้าไม่ติดเรื่องของวัตถุกันเสีย ที่อาจจะมีปะปนมากับอาหารบ้างไม่มากก็น้อย ทูน่าคอร์นสลัด ให้พลังงานต่อร่างกายได้ 170 kcal ต่อ 100 กรัม อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน จากเนื้อปลา, วิตามิน จากผัก ผลไม้, ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต จาก มายองเนส เป็นต้น
วัตถุดิบ
- แครอทหั่นเต๋า
- ข้าวโพดหวาน
- ถั่วลันเตา
- สับปะรด
- ทูน่ากระป๋อง
- น้ำสลัด (สูตรไขมันต่ำ)
- มายองเนส (สูตรไขมันต่ำ)
- น้ำเชื่อม
- น้ำมะนาว
วิธีทำ
- นำแครอทหั่นเต๋า ข้าวโพด และถั่วลันเตา ล้างให้สะอาด และไปต้มให้สุก (อย่าให้เละ) พักไว้
- เทน้ำสลัดใส่ชามผสม ตามด้วยมายองเนส น้ำเชื่อม และน้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน
- นำทูน่าออกจากกระป๋อง ใส่ลงไปในชามผสม
- ใส่สับปะรด หั่นเป็นชิ้น ๆ ลงไป
- ใส่แครอท ข้าวโพด และถั่วลันเตาที่เตรียมไว้ลงไป
- คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ระวังอย่างให้เนื้อทูน่าแตกออกจากกัน จนเป็นฝอยเกินไป
- จะรับประทานทันที หรือเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด แช่ตู้เย็นไว้รับประทานภายหลังก็ได้
เกร็ดความรู้
- บางสูตร จะใส่มัสตาร์ดเพิ่มลงไป 1 ช้อน ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
- หากไม่ต้องการใช้น้ำเชื่อม อาจใช้น้ำผึ้งธรรมชาติใส่แทนลงไปก็ได้
- ปัจจุบันมีแครอทหั่นเต๋า ข้าวโพด และถั่วลันเตา ผสมกัน ขายเป็นอาหารแช่แข็ง ใครที่ต้องการลองทำรับประทาน สามารถหาซื้อกันได้ที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
- เมนูนี้ ถึงจะชื่อว่าเป็น “สลัด” แต่ก็ไม่ควรรับประทานในขณะที่ลดน้ำหนัก เพราะว่ามีปริมาณไขมันจากน้ำสลัด และมายองเนสอยู่สูง
- การปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเมนูในก็ตาม ควรใส่เครื่องปรุงทีละน้อย และชิม หากไม่ได้รสชาติ ตามต้องการจึงค่อยปรุงเพิ่ม จะดีกว่าการใส่เครื่องปรุงลงไปทีเดียว
เนื้อทูน่าที่ใช้นั้น ควรเลือกเป็นทูน่าในน้ำแร่ เพราะจะมีรสชาติเป็นกลาง หากใช้ทูน่าในน้ำมัน หรือน้ำเกลือ อาจจะมีความมัน หรือความเค็มมากเกินไป จนทำให้รสชาติแปลกไปได้