เชื่อว่าเมื่อพูดถึง “พริก” หลายคนจะต้องนึกพืชผักที่ให้ความเผ็ดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มักจะถูกนำมาปรุงอาหารและสร้างสรรรสชชาติกับอาหารไทยได้เป็นอย่างดี แต่พริกที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นพริกที่แทบไม่มีรสเผ็ดเลย แต่กลับมีรสชาติที่อร่อยและมีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพที่น่าสนใจ
พริกหยวกและพริกหวานคืออะไร เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?
พริกหยวกและพริกหวาน 2 พืชตะกูลพริกที่มีความแตกต่างจากพริกในบ้านเรา ด้วยขนาดที่ใหญกว่า สีสันที่สดใสกว่า และรสชาติที่ไม่ได้รับความนิยมในบ้านเราเท่าไรนัก จึงอาจจะทำให้พริกหยวกและพริกหวานมักถูกมองข้ามในการรับประทาน ทำความรู้จักกับพริกฃนิดแรกอย่างพริกหยวกกันเลยดีกว่า
- พริกหยวก คือ พืชที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาเขตร้อน ตัวะพริกหยวกมีความกรอบ หวาน หอม และเผ็ดน้อย จึงเป็นที่นิยมใช้สำหรับเป็นนครื่องเคียงหรือเครื่องปรุงในอาหารอยู่หลายชนิดในฝั่งอเมริกา สรรคุณของพริกหยวกนั้นมีด้วยกันหลายอย่าง เช่น ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ลอความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ภายในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดและระบบทางเดินโลหิตต่างๆ ช่วยขับลมและแก้อาการจุกเสียดท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย และเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
- พริกหวาน คือ พืชข้ามปีที่ออกผลมาเป็นลักษณะลูกกลมใหญ่กว่าพริกอื่นๆ แต่ขนาดที่ใหญ่นั้นกลับมีรสชาติที่ออกหวานมากเผ็ดเสียอีก สรระคุณของพริกหวานมีหลายอย่างเช่นกัน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น
คุณประโยชน์และสรรพคุณจากพริกหยวกและพริกหวาน
สิ่งที่เหมือนกันของเจ้าพริกหยวกและพริกหวานนั้นก็คือ เป็นผักที่มีรสชาติดีอร่อยแต่ให้ให้พลังงานน้อย พริกหวานให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี และพริกหยวกให้เพียงแค่ 27 กิโลแคลอรี แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินบี1, 2, 3, 5 , 6 และ 9 วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเค อีกทั้งยังมีสาร Capsaicin บรรเทาอาการหวัด ปวดศรีษะ หรือปวดเมื่อยตามเส้นเอ็และข้อต่อต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โรคทางเดินปัสวะ และโรคต้อกระจกได้เป็นอย่างดี ในหลายประเทศ
พริกหยวกและพริกหวานถูกยกให้เป็นผักสำรับลดน้ำหนัก ด้วยการนำพริกหวานไปทำเป็นเมนูสลัด นำไปทำเป็นไก่ผัดพริกหยวก พริกหยวกยัดไส้หมู หรือเมนูบาบิคิวพริกหวานพริกหยวกก็จะช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น นี่หรือสรรพคุณและประโยชน์จากพริกหยวกและพริกหวานที่หลายคนอาจจะไม่ทราบและมักหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานอยู่เสมอ รู้แบบนี้แล้วอยากให้ทุกลองมารับประทานหรือทำเมนูเกี่ยวกับพริกหยวกและพริกหวานให้มากยิ่งขึ้น