ลักษณะของอาการปวดสะโพก
ลักษณะอาการปวดสะโพกจากการวิ่งนั้น จะมีอาการเจ็บที่สะโพกหรือเห็นอาการบวมแดงอย่างเห็นได้ชัดร่วมด้วย เมื่อคุณทำการกดจะยิ่งรู้สึกเจ็บมากยิ่งขึ้น บางรายอาจจะทำไม่เดินได้ไม่สะดวก ขยับร่างกายได้ไม่เต็มที่ นั่ง เดิน ยืนลำบาก และยังส่งผลต่อการวิ่งโดยตรง
หากผู้ป่วยฝืนวิ่งต่ออาจจะเกิดอาการปวดก้นและต้นขาร่วมด้วยได้ เพราะสะโพกจะทำหน้าที่ในการรักษาสมดุลระหว่างการวิ่ง ส่งผมให้ขาเมื่อยล้าได้ง่าย อ่อนแรง และมักมีอาการปวดระหว่างการนอนร่วมด้วย
สาเหตุของอาการปวดสะโพก
สาเหตุหลักของอาการดั่งกล่าวนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ปุ่มกระดูกใกล้ง่ามก้น ซึ่งเป็นที่สำคัญของกล้ามเนื้อแฮมสะตริง เมื่อถูกกระตุกหรือดึงจากการเร่งความเร็วในการวิ่ง หากไม่แข็งแรงก็จะทำให้เกิดอาการปวดที่สะโพกนั่นเอง
โดยพบได้บ่อยในกลุ่มนักวิ่งที่มักวิ่งบนเส้นทางที่ไม่สม่ำเสมอและมีพื้นที่ต่างระดับ เช่น ถนนที่มีหลุมบ่อ หรือชายฝั่งแม่น้ำ
วิธีการรักษา
หากคุณวิ่งแล้วมีอาการปวดสะโพกนั้น ให้ทำการหยุดหยุดพักโดยทันที อย่าฝืนวิ่งหรือเดินไกลต่อเด็ดขาด จากนั้นให้ทำการประคบด้วยน้ำแข็ง 15 – 20 หรือใช้สเปรย์ฉีดเพื่อแก้ปวด แนะนำว่าควรเว้นการวิ่งสัก 2 – 3 วัน เรื่องจากสะโพกนั้นเป็นส่วนสำคัญที่เราต้องใช้สำหรับการวิ่ง เดิน หรือทำกิจกรรมต่างๆ
ฉะนั้นหากใช้งานหนักอาจจะทำให้หายช้า มีอาการปวดเพิ่มขึ้น จนกล้ามเนื้อเกิดอาการอักเสบได้ หากผ่านไป 3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควนพบแพทย์เพื่อรับยาต้านการอักเสบ พักร่างกายประมาณ 1สัปดาห์ รักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย เช่น ประคบร้อน หรือเดินเบา เป็น
การป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
- หลีกเลี่ยงการวิ่งในเส้นทางที่ไม่สม่ำเสมอ ไม่เรียบ หรือเต็มไปด้วยสิ่งกรีดขวาง ไม่ควรกระโดดหรือกระโจนหลบหลุมบ่อตามเส้นทางนั้นๆ
- ปรับโครงสร้างร่างกาย อาการปวดสะโพกนั้นสามารถป้องกันได้ด้วยสำรวจตัวเองว่ามีระยะขาที่เท่ากันหรือไม่ ฉะนั้นให้เสริมด้วยรองเท้าที่ทำให้ความสูงของร่างกายเท่ากันทั้ง 2 ข้าง เพื่อสร้างสมดุลให้มากที่สุดในระหว่างการวิ่ง
- บริหารกล้ามสะโพก นักวิ่งทุกท่านควรทำการบริหารกล้ามเนื้อที่ด้านข้างของสะโพกและต้นขาให้แข็งแรงอยู่เสมอและเสริมความยืดหยุ่นให้กับส่วนสะโพก ควรทำทุกครั้งก่อนและหลังวิ่งอย่างเป็นประจำ
สำหรับนักวิ่งทุกท่านั้นควรระวังอาการปวดของสะโพกไว้เสมอ เพราะถือว่าเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ต้องใช้ในการวิ่ง หากเกิดอาการปวดเรื้อรังขึ้นมาอาจจะทำให้การวิ่งของคุณต้องหยุดนานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว ฉะนั้นป้องกันไว้ก่อนที่จะเกิดอาการดั่งกล่าวดีที่สุด