เตยหอม หรือสมุนไพรที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “ใบเตย” นิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร หรือขนมต่างๆ โดยเฉพาะการนำมาแต่งกลิ่น หรือสี ให้สวยงาม ทำให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่ามิได้มีประโยชน์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยา ทั้งช่วยบำรุงร่างกาย และรักษาโรคบางโรคได้อีกด้วย
ประโยชน์ที่เด่นชัดของใบเตย
- ช่วยบำรุงหัวใจ โดยจะไปลด และควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติ โดยการดื่มน้ำที่คั้นจากใบเตย หรือนำใบเตยไปบดผสมลงในอาหาร
- ช่วยดับกระหาย จะสังเกตุได้ว่าหากได้ดื่มน้ำที่ต้มกับใบเตย จะรู้สึกสดชื่นมากกว่าดื่มน้ำธรรมดา
- สามารถรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น โรคหัด หรือสุกใส โดยการนำใบเตยมาตำให้แหลก และนำมาพอกผิวทิ้งไว้
- ราก และลำต้นสามารถช่วยชะลอการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดี จึงมีประโยชน์มากกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยการนำราก และลำต้นไปต้ม และเอาน้ำมาดื่ม เช้า – เย็น
วิธีทำน้ำใบเตยหอม
- นำใบเตยหอมล้างให้สะอาด และหั่นเป็นชิ้นพักไว้ ประมาณ 2 ถ้วย
- นำใบเตยครึ่งหนึ่งใส่ลงโถปั่น เติมน้ำลงไปเล็กน้อย ปั่นให้ใบเตยละเอียด
- นำน้ำใบเตยที่ปั่นแล้ว มากรองด้วยผ้าขาวบาง ให้เหลือเฉพาะน้ำสีเขียว
- นำน้ำใบเตยที่กรองแล้ว ใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง และใส่ใบเตยที่เหลือลงไป ต้มให้เดือด
- กรองให้เหลือแต่น้ำอีกครั้ง จากนั้นนำไปต้มให้เดือดอีกครั้ง เติมน้ำตาล หรือน้ำหญ้าหวานนิดหน่อย เพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้
- เมื่อเดือด แล้วปิดไฟ นำมาพักให้เย็น สามารถใส่น้ำแข็ง และดื่มได้ทันที หรือจะเก็บใส่ขวดที่มีฝาปิดสนิท แช่เย็นเก็บไว้
เกร็ดความรู้
- สามารถดื่มเพื่อเป็นเครื่องดื่มชูกำลังให้คุณผู้ชายทั้งหลายได้อีกด้วย
- น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากใบเตยหอมนั้น เป็นกลิ่นเดียวกับที่สกัดได้จาก ข้าวหอมมะลิ ขนมปังขาว และดอกชมนาด
- หลายคนอาจจะไม่เคยทราบว่า สารสกัดจากใบเตย นำมาใช้เป็นสารแต่งกลิ่นบุหรี่ด้วย
- ใบเตยสด หากนำมาขัดพื้น จะทำให้พื้นเงาวับ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย
- ใบเตย สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาเก็บใส่ขวดปิดฝาให้มิดชิด เพื่อนำมาชงเป็นชาดื่มก็ได้
- ใบเตยจะสามารถหาได้ง่ายในฤดูฝน เพราะดินในฤดูฝนจะทำให้ต้นเตยตั้งตัวได้ง่ายกว่าฤดูอื่นๆ
การนำวัตถุดิบไปปั่น จะประหยัดไฟ และละเอียดเร็วขึ้น หากหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้ก่อน