หากเอ่ยถึงส้มตำ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาทันที เพราะส้มตำนั้นถือเป็นอาหารของคนไทยที่ได้รับความนิยมตลอดกาล และเป็นเมนูที่มีรสชาติจัดจ้านแซบอร่อยถึงอกถึงใจของใครหลายๆ คน แถมยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอีกด้วย เพราะมีแคลอรีต่ำเพียงแค่ประมาณ 60 กิโลแคลอรีต่อจาน และมีกากใยอาหารมาก ทำให้ช่วงมื้อเย็นหลายๆ คนต่างเลือกที่จะทานส้มตำสำหรับการลดน้ำหนักกัน แต่ที่สำคัญจะต้องระวังเรื่องความหวาน ความเค็ม ด้วยเพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้น้ำหนักเราไม่ลดทางอ้อมนะค่ะ
วิธีทำส้มตำปูม้าแบบง่ายๆ ได้ที่บ้าน
– ขั้นแรกเราก็ต้องเตรียมส่วนประกอบของเมนูนี้กันให้ครบเครื่องก่อนนะคะ ได้แก่ มะละกอสับ, ปูม้าสด, มะเขือเทศ, พริกขี้หนู, ถั่วฝักยาว, น้ำปลา, มะนาว และน้ำตาลปี๊บ (อาจใส่แครอทลงไปด้วยก็ได้นะคะ แล้วแต่ความชอบ)
– เมื่อเราได้เครื่องปรุงครบแล้ว เราก็เริ่มจากนำปูม้าสดที่เตรียมมาไปล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วก็นำไปแช่ในตู้เย็นรอให้เย็นก่อน (อาจแช่เตรียมไว้เลย) ระหว่างนั้นก็โขลกกระเทียมและพริกให้ละเอียด
– จากนั้นก็นำมะละกอสับใส่ลงไปในครก แล้วตามด้วยมะเขือเทศที่ได้หั่นเตรียมเอาไว้ ต่อด้วยถั่วฝักยาวหั่นท่อน
– หลังจากนั้นก็นำปูม้าสดที่เราแช่เย็นไว้ใส่ตามลงไปโขลกเบาๆ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา และมะนาว คลุกเคล้าให้ทั่วตักใส่จานแล้วเสิร์ฟพร้อมกับถั่วฝักยาวและกะหล่ำปลี แค่นี้ก็พร้อมเมนูสุดแซบแสนอร่อยได้แล้วล่ะค่ะ
ประโยชน์ของส้มตำปูม้า
– มีอนุมูลอิสระสูงจากผักและผลไม้ ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย
– ช่วยลดเลือนและชะลอริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ดูหน้าเด็กตลอดเวลา
– ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟันเพราะมีวิตามินซีอยู่สูง
– มีกากใยอาหารมากช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ไม่เกิดอาการท้องผูก และโรคริดสีดวงทวาร
– ช่วยขับลมในลำไส้ ทำให้ท้องไม่อืดไม่เฟ้อ
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าส้มตำเป็นเมนูเพื่อสุขภาพยอดฮิตของคนไทยอย่างแท้จริงนะคะ แต่ก็ควรรับประทานควบคู่กับเมนูอื่นด้วยอย่างไก่ย่าง หรือลาบ และขนมจีน เป็นต้น ทั้งนี้ทังนั้นเพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน หากผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน, ไต หรือความดันโลหิตสูง อาจต้องหลีกเลี่ยง หรือรับประทานแต่น้อยนะคะ เพราะในส้มตำนั้นมีปริมาณโซเดียมหรือความเค็มค่อนข้างสูง ที่สำคัญคือควรจะรับประทานอย่างพอดีไม่ควรมากเกินไปนะค่ะ
ขอขอบคุณภาพจาก Chiangcancook และ edtguide