ข้าวบาร์เลย์ สรรพคุณมีอะไรบ้าง ทำไมเดี๋ยวนี้คนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก

ชื่อนี้อาจฟังดูคุ้นๆ เพราะหลายคนนิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องดื่ม และขนมต่าง ๆ มากมาย ข้าวบาร์เลย์นั้นเป็นธัญพืชที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับข้าวโพด และข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์เป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อเซลล์ร่างกายของมนุษย์อย่างมหาศาล เราสามารถพบเห็นในร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าทั่วไป โดยมักจะในรูปแบบของขนมปัง

ข้าวบาร์เลย์

ข้าวบาร์เลย์มีประโยชน์และสรรพคุณอะไรบ้าง

อาหารชนิดนี้ มีความโดดเด่นในด้านของการควบคุมน้ำตาลในเลือด เคยมีนักวิจัยชาวดัตช์ได้ศึกษาวิจัย และพบว่า หากกินข้าวบาร์เลย์สุกในมือเย็น เช้าวันถัดมาจะพบว่าร่างการสามารถลดความไวของอินซูลินดีขึ้น 30% นอกจากนั้น ข้าวบาร์เลย์สามารถลดระดับน้ำตาลกลูโคสได้ดีกว่าทานข้าวทั่วไป เพราะว่าเราต้องทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำที่สุด เพื่อที่จะทำให้ไขมันสะสมในร่างกายนั้นน้อยตามไปด้วย

ข้าวพันธุ์นี้ยังมีแคลอรี่อยู่ในระดับต่ำ แต่มีโปรตีนสูงอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นช่วยให้ร่างกายไม่อยากอาหาร มีใยอาหารมากช่วยให้อยู่ท้อง อิ่มนาน นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการลดน้ำหนัก ยังช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย อันเป็นสาเหตุของโรงมะเร็ง และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งที่มีแคลอรี่ต่ำ แต่กลับช่วยในเรื่องของการย่อยอาหาร รวมถึงช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้นกันมากขึ้น

ส่วนในเรื่องของรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง ข้าวบาร์เลย์ นี้มีกลิ่น และรสชาติ ที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ มีความหอมที่ละมุนละไม ทำให้พร้อมเผชิญกับวันใหม่ด้วยความสดชื่น นอกจากขนมปังที่ทำจากข้าวบาร์เลย์ ในปัจจุบันคนไทยเริ่มมีความนิยมนำข้าวพันธุ์นี้มาหุงทานกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะคุณแม่ ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียน

ข้าวบาร์เลย์ ประโยชน์

ข้าวบาร์เลย์มีวิธีการหุงอย่างไรให้อร่อย

หุงข้าวโดยใช้อัตราส่วน ข้าว 1 ส่วน ต่อ น้ำ 2 ส่วน ข้าวบาร์เลย์ไม่ต้องแช่น้ำก่อนหุง แค่ซาวด้วยน้ำสะอาดซัก 2 น้ำ เพื่อนำฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจปะปนมากับข้าวออกไป แล้วก็หุงได้ตามปกติเหมือนข้าวขาวทั่ว ๆ ไประยะเวลาในการหุงก็เหมือนกับข้าวทั่วไปได้เลยจ้า เท่านี้ก็จะได้ข้าวพร้อมรับประทานแล้ว

เกร็ดความรู้

  • ข้าวบาร์เลย์เป็นธัญชาติที่มนุษย์รู้จักนำมากินเป็นชนิดแรก เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองแถบเมโสโปเตเมีย
  • มอลต์ คือ ข้าวบาร์เลย์ที่เก็บเกี่ยวในขณะที่งอกออกมาเพียงเล็กน้อย แล้วนำไปคั่ว หรืออบให้แห้ง
  • ควรเก็บบรรจุไว้ในถุงปิดสนิท ระบุวันหมดอายุไว้ชัดเจน หากเป็นข้าวบาร์เลย์ควรมีเมล็ดข้าวอยู่ในสภาพดี ไม่แตกหัก หลีกเลี่ยงบริเวณที่แสงแดดส่องถึง เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้เมล็ดข้าวบาร์เลย์คายน้ำจนเกิดความชื้น ส่งผลให้อายุเก็บรักษาสั้นลง