ทุเรียนหมอนทอง ลดความอ้วนได้ไหม ยิ่งกินแล้วยิ่งน้ำหนักขึ้นจริงอย่างที่คนอื่นเขาบอกกันจริงเหรอ

สำหรับราชาแห่งผลไม้ของไทยเราที่จะออกมาให้เห็นหน้าค่าตากันในช่วงเดือนเมษาฯ อย่างทุเรียนนั้น เรียกว่าเป็นผลไม้สุดโปรดของใครหลายๆคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอกินกันเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายๆ คนต่างติดอกติดใจกัน บางคนถึงขนาดซื้อมากินกันทีละหลายๆ กิโล ก็มี จนอาจถึงขั้นทำให้ราคาของผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่ออกมาในช่วงเดียวกันขาดทุนกันไปเลยก็มีนะคะ โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทองนั้นเรียกว่าเป็นพันธุ์ที่ยอดนิยมเลยก็ว่าได้ เพราะทุเรียนพันธุ์นี้มักจะมีเนื้อเหลืองทองสวย ไม่แฉะเป็นทุเรียนปลาร้า และมีรสชาติหวานมันอร่อย

ทุเรียนหมอนทอง

แล้วทุเรียนหมอนทองยิ่งกินยิ่งอ้วนจริงมั้ย?

เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในสื่อต่างๆ เพราะมีบางสื่อออกมาบอกว่าทุเรียนกินแล้วไม่อ้วน และไม่เป็นเบาหวาน ในขณะที่บางแห่งออกมาระบุอย่างชัดเจนว่าทุเรียนนำมาซึ่งโรคอ้วน, โรคหัวใจ, โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน เป็นต้น

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทุเรียนนั้นจัดเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลและแคลอรีอยู่สูงมากทีเดียว เพราะภายในประกอบไปด้วยแป้งและไขมัน เพียงแต่ว่าเป็นไขมันดีที่ไม่ก่อโทษให้แก่ร่างกาย รวมทั้งมีกรดกำมะถันสาเหตุหลักของโรคร้อนใน โดยใน 2 – 3 พู นั้นมีปริมาณแคลอรีอยู่สูงถึง 400 กิโลแคลอรีเลยทีเดียวนะคะ เรียกว่าสูงเทียบเท่ากับการรับประทานข้าวกระเพราหมูสับ 1 จานเลยก็ว่าได้ค่ะ

ทุเรียนหมอนทอง

ดังนั้น หากรับประทานทุเรียนเข้าไปแบบไม่บันยะบันยัง แถมขาดการออกกำลังกาย ประเภทรับประทานเสร็จแล้วก็นั่งๆ นอนๆ อยู่หน้าทีวีล่ะก็ รับรองเลยค่ะว่าไม่ใช่แต่เพียงโรคอ้วนเท่านั้นที่ถามหา แต่บรรดาโรคสารพัดยังจะเข้ามากล้ำกรายคุณด้วยเป็นของแถม

แต่อย่างไรก็ตาม ในผลทุเรียนก็ยังมีประโยชน์แก่ร่างกายในด้านของการขับถ่าย และการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในร่างกายได้ ฉะนั้น หากใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่ ทุเรียนคงไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก เพียงแต่ในผู้ที่กำลังลดน้ำหนักก็สามารถรับประทานทุเรียนได้เช่นกันโดยทานได้อย่างจำกัดอยู่ที่อาทิตย์ละไม่เกิน 2 พู

รวมทั้งเลือกทุเรียนที่สุกกำลังดีหรือห่ามๆ เพราะว่าภายในทุเรียนแบบนี้นั้นจะมีปริมาณน้ำตาลน้อย และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าในทุเรียนที่สุกหรือดิบจนเกินไป และที่สำคัญควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็ห่างไกลจากโรคอ้วนแล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก soshiok และ withlocals