สำหรับน้ำมันมะพร้าวนั้นเป็นที่รู้กันดีถึงสรรพคุณหรือคุณประโยชน์ที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะในบรรดาสาวๆ ทั้งหลายต่างนิยมนำน้ำมันมะพร้าวนี้มาใช้เสริมความงาม เช่น การบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส หรือหมักผมให้นุ่ม เงางาม มีน้ำหนัก เป็นต้น
น้ำมันมะพร้าวคืออะไร มาจากไหนกันนะ?
น้ำมันมะพร้าวนี้เรียกได้ว่าเป็นน้ำมันพืชชนิดแรกๆ ในอดีตนั้นเป็นที่นิยมนำมาปรุงอาหารกันเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวอยู่สูง จึงทำให้หลายๆ คนต่างหันไปบริโภคน้ำมันพืชชนิดอื่นแทน
ทว่าในปัจจุบันน้ำมันมะพร้าวได้กลับมาเป็นที่นิยมสำหรับลดความอ้วนของผู้คนมากขึ้น เพราะในปัจจุบันน้ำมันมะพร้าวได้พัฒนากระบวนการผลิตเป็นกระบวนการบีบเย็น หรือที่เรียกว่า น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil) ทำให้มีคุณสมบัติในการลดความอ้วนได้ แถมยังปราศจากสารพิษตกค้างในร่างกายของเราอีกต่างหาก เพราะว่าผลิตมาจากธรรมชาติล้วนๆ
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยลดความอ้วน (เพียงรับประทานวันละ 1 – 2 ช้อนโต๊ะเท่านั้น)
– น้ำมันมะพร้าวมีแคลอรีต่ำกว่าน้ำมันประเภทอื่นๆ โดยเมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วจะรู้สึกอิ่มท้องได้นานกว่าปกติ เมื่อไม่หิวความอยากอาหารก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ
– ช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญเจ้าไขมันหรือแคลอรีได้มากขึ้น (8.6 กิโลแคลอรี/กรัม) ทำให้ไขมันไม่ไปอุดตันหรือสะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
– ช่วยให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น ย่อยง่าย จึงส่งผลให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น โดยเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วร่างกายจะทำการเผาผลาญไขมันในทันทีไม่เก็บสะสมไว้ในร่างกายเหมือนกับไขมันชนิดอื่น
นอกจากประโยชน์ของการลดความอ้วนแล้ว น้ำมันมะพร้าวยังมีคุณค่าอีกเพียบเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยบำรุงกระดูก, บำรุงครรภ์, นอนหลับสบายขึ้น, ลดการอักเสบและติดเชื้อต่างๆ หรือช่วยลดกลิ่นปาก และแม้กระทั่งการรักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีลดความอ้วนกันอยู่ล่ะก็ ลองหันมารับประทานน้ำมันมะพร้าวกันดูนะคะ
อ้อ! แต่หากใครรับประทานน้ำมันมะพร้าวนี้เกิน 2 เดือนขึ้นไปแล้วล่ะก็ แนะนำว่าควรทานแคลเซียมเสริมเข้าไปด้วยนะคะ เพราะความมันของน้ำมันมะพร้าวจะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงนั่นเองค่ะ
ขอขอบคุณภาพถ่ายจาก : beautyworldnews และ barebite