ภูมิแพ้อาหารแฝง คืออะไรมีวิธีการรักษาอย่างไร อาหารอะไรที่ทำให้แพ้

ภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นอีกโรคหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลย ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เป็นจำนวนไม่น้อย และมีความอันตรายมากทีเดียว ดังนั้นเรามาดูกันสิว่าโรคนี้คืออะไร มีอาการและวิธีการรักษาอย่างไร รวมถึงอาหารชนิดใดที่ทำให้เกิดการแพ้ เพื่อจะได้ป้องกันตนเองจากโรคนี้ได้อย่างถูกวิธีนั่นเอง

ภูมิแพ้อาหารแฝง คืออะไรมีวิธีการรักษาอย่างไร

โรคภูมิแพ้อาหารแฝง คืออะไร

ภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายของเราต่อต้านอาหารชนิดหนึ่งโดยไม่แสดงอาการออกมา แต่จะมีการสร้างแอนติบอดี IgG ขึ้นมาทำลายเนื้อเยื่อของตัวเอง จนกระทั่งเกิดเป็นโรคร้ายโดยที่เราก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งหากยังคงกินอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นอันตรายมากทีเดียว

อาการของโรคภูมิแพ้อาหารแฝง

โรคนี้จะไม่แสดงอาการในทันทีที่เกิดการแพ้ แต่จะมีอาการเมื่อเนื้อเยื่อในร่างกายถูกทำลายจนอักเสบถึงขั้นรุนแรง และมีอาการป่วยเรื้อรังด้วยโรคต่างๆ เช่น  ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดศีรษะไมเกรน ไม่มีสมาธิ เป็นผื่นคันหรือแผลเรื้อรัง มีอาการหอบหืด ไอเรื้อรัง และนอนไม่หลับ เป็นต้น โดยแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าอวัยวะส่วนไหนที่ถูกทำลาย เพราะฉะนั้นหากมีอาการป่วยเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุที่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาโรคภูมิแพ้อาหารแฝงทันที

วิธีการรักษา โรคภูมิแพ้อาหารแฝง

สำหรับวิธีการรักษา จะต้องทำการตรวจคัดกรองการแพ้อาหารแฝง เพื่อค้นหาว่าอาหารที่ทำให้แพ้มีอะไรบ้าง และแพ้มากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้วางแผนการรักษาอย่างถูกวิธีนั่นเอง ซึ่งแต่ละคนจะมีอาหารที่แพ้แตกต่างกันไป จึงต้องตรวจเป็นรายบุคคล ไม่สามารถนำผลการแพ้จากคนอื่นมาใช้วิเคราะห์การรักษากับอีกคนได้ โดยเมื่อพบตัวการที่ทำให้แพ้แล้ว ก็ต้องงดการทานอาหารชนิดนั้น หรือลดปริมาณให้น้อยลง

อาหารที่ทำให้เกิดการแพ้

อาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ อาจเป็นอาหารชนิดใดก็ได้ เพราะแต่ละคนจะมีอาหารที่แพ้แตกต่างกันไป ซึ่งจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองการแพ้อาหารแฝงนั่นเอง ดังนั้นใครที่รู้สึกกังวลว่าตัวเองจะเป็นภูมิแพ้อาหารแฝงหรือเปล่า ก็สามารถไปรับการตรวจคัดกรองได้

ภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นโรคชนิดหนึ่งที่อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็สามารถเตรียมพร้อมรับมือป้องกันโรคนี้ได้ ด้วยการเข้ารับการตรวจคัดกรองการแพ้อาหารแฝง โดยหากตรวจพบเร็วเท่าไหร่ก็จะลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้มากเท่านั้น เพราะเราจะได้หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อการแพ้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนจะส่งผลอันตรายนั่นเอง