วิ่งแล้วปวดหลัง เกิดจากสาเหตุอะไร วิธีการแก้ควรจะวิ่งแบบไหนถึงไม่ปวดหลัง

ประโยชน์จากการวิ่ง

การวิ่ง คือ การออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างครบถ้วน โดยจากงานวิจัยหลายแห่งทำให้พบว่าวิ่งนั้นส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ สำหรับสุขภาพกายนั้นเริ่มกันตั้งแต่ได้สุขภาพขา เอว ลำตัว และแขนที่แข็งแรง เช่น กล้ามเนื้อน่องและกล้ามเนื้อต้นหา เป็นต้น เนื่องจากเป็นอวัยวะหลักที่ใช้ในการวิ่ง ความดันเลือดเป็นปกติ การทำงานของหัวใจ ปอด และการหายใจเป็นไปอย่างปกติ นอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคความดันเลือด โรคเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด และทำให้ควบคุมน้ำหนักได้มากขึ้น ในระหว่างวิ่งนั้นยังทำให้ผู้ออกกำลังกายอารมณ์ดี ลดความเครียด และสุขภาพจิตดีขึ้น

วิ่งแล้วปวดหลัง เกิดจากสาเหตุอะไร

ทำไมวิ่งแล้วปวดหลัง

การวิ่งสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้หลายแห่ง แต่หนึ่งในอาการที่พบเจอได้บ่อยสุดคือการปวดหลังนั่นเอง สาเหตุของอาการปวดหลังนั้นเกิดได้จากสาเหตุใหญ่ๆ 3 อย่าง

  1. การโน้มตัวไปข้างหน้า แม้ในการวิ่งจะใช้ส่วนขาเป็นหลักแต่ส่วนลำตัวก็เป็นที่สำคัญเช่นกัน ไม่ควรโน้มไปข้างหน้าเพราะจะทำให้หลังล้า หากคุณเกร็งลำตัวในขณะวิ่งอาจจะทำให้เกิดความสมดุล
  2. กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง การวิ่งเป็นสิ่งที่ใช้ความแข้งแรงของกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อลำตัวร่วมด้วย ฉะนั้นการปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อกล้ามเนื้อช่วงลำตัวของคุณไม่แข็งแรง
  3. วิ่งในระยะทางที่เกินขีดจำกัดของร่างกาย หลายครั้งที่กีฬาวิ่งหรือนักออกกำลังกายเลือกที่จะวิ่งในระยะทางที่ไกลจนเกินไป จนทำให้ร่างกายเกิดเหนื่อยล้าและเกินขีดจำกัด ทำให้ร่างกายบาดเจ็บและไม่พร้อมที่ตะเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างถูกต้อง หากฝืนไปนอกจากปวดหลังแล้วยังทำให้ปวดส่วนอื่นๆอีกด้วย

วิธีแก้ไขอาการวิ่งแล้วปวดหลังที่ถูกต้อง

อาการปวดหลังจากการวิ่งนั้นสามารถแก้ไขได้ อันดับแรกคุณจะต้องให้ความสำคัญกับการวอร์มร่างกายก่อนออกวิ่ง โดยให้ยืดกล้ามเนื้อส่วนหลัง ไหล่ แขน และต้นขาด้านหลังเป็นหลัก เพื่อลดความตึงที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อหลัง ใส่ในกับท่าทางในการวิ่ง ซึ่งท่าทางการวิ่งที่ดีและถูกต้องนั้นจะต้องตั้งลำตัวให้ตรง ไม่โน้มไปข้างหรือแอ่นหลังจนเกินไป

สำหรับวันไหนที่เป็นวันพักไม่ได้ออกวิ่งให้หันมาออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งในส่วนอื่นๆแทน เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำตัว แขน ไหล่ และกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ หากอาการปวดหลังยังไม่หายหรือไม่ลดน้อยลง ควรจะหยุดวิ่งและพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้หายดีก่อนออกวิ่งอีกครั้งจะดีที่สุด

สำหรับใครที่ชื่นชอบในการวิ่งควรให้ความสำคัญกับวิธีการวิ่งที่ถูกต้องด้วย เพื่อช่วยได้ประโยชน์จากการวิ่งอย่างเต็มที่และลดอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความสนุกทุกครั้งที่คุณได้ออกวิ่ง